4 อาการแย่ๆ สัญญาณอันตราย ของการลดความอ้วนผิดวิธี

4 อาการแย่ๆ สัญญาณอันตราย ของการลดความอ้วนผิดวิธี

                                 

เรื่องลดความอ้วน นับว่าเป็นเทรนด์ฮิตในทุกยุคทุกสมัยสำหรับสาวๆ ซึ่งก็มักจะหาสารพัดวิธีมาใช้ ไม่ว่าจะเป็น อาหารเสริม ชุดกระชับสัดส่วน ยาลดความอ้วน หรือแม้แต่การอดอาหาร ซึ่งไม่ว่าจะเป็นการลดวิธีไหนก็ตามอย่าได้ลืมดูแลสุขภาพของตัวเองด้วย เพราะการจะมีหุ่นสวยต้องควบคู่กับการมีสุขภาพที่ดี เพื่อไม่ให้ผลร้ายต่าง ๆ ตามมาภายหลัง โดยต้องคิดอยู่เสมอว่าการลดน้ำหนักที่ถูกต้องคือ ไขมันต้องถูกกำจัดออกไปไม่ใช่กล้ามเนื้อ แต่ถ้าหากมีการลดน้ำหนักที่ผิดวิธี ร่างกายก็จะฟ้องออกมาจนน่ากลัวแบบนี้

1. ใบหน้าซูบซีด ร่างกายโทรม ผิวหนังเหี่ยวแห้ง

                                     

ที่เป็นแบบนี้เพราะร่างกายขาดน้ำ ซึ่งโดยปกติ ใน 1 วัน ร่างกายจะต้องได้น้ำจากการดื่มน้ำ 1,500-2,000 C.C. หรือประมาณ 6-8 แก้ว และอีกส่วนหนึ่งมาจากอาหารประมาณ 1,000-2,000 C.C. ซึ่งเมื่อร่างกายเผาผลาญอาหารก็จะทำให้ได้น้ำเพิ่มอีก 300-500 C.C. ดังนั้นน้ำที่ใช้ในร่างกายส่วนใหญ่จึงเป็นน้ำที่มาจากอาหารที่กินเข้าไป และถ้าหากลดน้ำหนักโดยการลดปริมาณอาหารมากเท่าไร ร่างกายก็จะยิ่งขาดน้ำมากเท่านั้น ทางที่ดีจึงควรดื่มน้ำชดเชยให้ได้วันละประมาณ 10-12 แก้ว

นอกจากการขาดน้ำจะส่งผลให้ร่างกายและผิวพรรณทรุดโทรมแล้วการงดอาหารจนทำให้ร่างกายขาดวิตามินและเกลือแร่ก็ส่งผลให้เห็นเช่นกัน ได้แก่

• ขาดวิตามิน A จะทำให้ผิวแห้ง ไม่เรียบเนียน เยื่อบุอวัยวะต่าง ๆ แห้ง และอักเสบ
• ขาดวิตามิน B1, B2, B3 และ B5 จะทำให้ผิวไม่เรียบเนียน แห้ง เหี่ยวย่น เป็นกระง่าย
• ขาดวิตามิน C ส่งผลให้ผิวหนังเหี่ยวย่นง่าย ไม่สดใส ไม่เต่งตึง
• ขาดธาตุสังกะสี จะทำให้ขาดโปรตีนเคราติน ที่ทำหน้าที่ในการสร้างผิวหนังใหม่ไม่สมบูรณ์ ทำให้ผิวไม่เรียบเนียน และไม่สม่ำเสมอ

2. เส้นผมขาดความเงางาม แห้งกรอบ ไม่นุ่มสลวย

                                 

การขาดน้ำและกรดไขมันบางชนิดไม่ได้ส่งผลแต่ด้านผิวพรรณเท่านั้น ยังส่งผลถึงต่อมไขมันบริเวณโคนเส้นผมอีกด้วย ซึ่งจะทำให้มีการผลิตไขมันออกมาน้อย เส้นผมจึงแห้งมาก สำหรับวิธีแก้ไขได้แก่การกินกรดไขมันที่จำเป็นบางชนิดเข้าไป อย่างเช่น กรดไขมัน LA ที่มีในน้ำมันถั่วเหลืองและน้ำมันงา กรด DHA ที่พบในน้ำมันปลา แต่ต้องกินให้ได้วันละ 3-6 กรัมจึงจะได้ผล นอกจากนี้การลดน้ำหนักจนร่างกายขาดแร่ธาตุบางอย่าง เช่น ธาตุกำมะถันที่เป็นส่วนประกอบในโปรตีนของเส้นผม และผิวหนัง กรดอะมิโนเมธิโอนีน ซีสติน วิตามิน B1 รวมถึงไบโอติน ก็จะทำให้เส้นผมและผิวหนังผิดปกติ ซึ่งสามารถแก้ไขได้โดยการกินอาหารที่มีธาตุกำมะถันมากๆ อย่างไข่ และผลไม้ เป็นต้น

3. กล้ามเนื้ออ่อนแรง ไม่มีความแข็งแรง

                                       

กรณีนี้อาจเกิดจากการกินอาหารประเภทโปรตีนน้อยเกินไป กระบวนการสร้างกล้ามเนื้อจึงมีปัญหาซึ่ง ใน 1 วัน ควรกินโปรตีนประมาณ 0.75 กรัมต่อน้ำหนักตัวที่เหมาะสม 1 กิโลกรัม รวมทั้งต้องออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย เพื่อทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรง ดังนั้นหากใครที่ลดอาหารประเภทโปรตีนมากเกินไป จนเริ่มมีอาการแบบนี้ล่ะก็ ควรเปลี่ยนพฤติกรรมการลดความอ้วนโดยด่วน แล้วหันมากินโปรตีนอย่างพอเหมาะเพื่อสุขภาพที่ดีกันดีกว่า

4. เกิดอาการขับถ่ายไม่ปกติ ท้องผูกเรื้อรัง

                                    

การดื่มน้ำน้อยและกินอาหารที่มีกากใยน้อย ทำให้กากอาหารในลำไส้น้อยตามไปด้วย ประกอบกับไม่ค่อยได้ออกกำลังกายการย่อยอาหารจึงทำงานได้ไม่ดี ลำไส้มีการเคลื่อนไหวน้อย จึงทำให้เกิดอาการท้องผูกขึ้นได้ นอกจากนี้หากยิ่งเพิ่มความเครียดเข้าไปอีกก็จะยิ่งทำให้อาการท้องผูกยิ่งแย่ไปกันใหญ่ ดังนั้นถึงแม้จะลดน้ำหนัก ก็ควรดื่มน้ำเยอะๆ และหมั่นทานอาหารที่อุดมไปด้วยกากใยอยู่เสมอ รวมทั้งจะต้องออกกำลังกายบ่อยๆ ด้วย เพื่อแก้ปัญหาการขับถ่าย และทำให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น

หากอยากมีสุขภาพร่างกายที่ดีไปพร้อมๆกับการลดน้ำหนักก็ควรลดน้ำหนักอย่างถูกวิธี และไม่ควรเร่งรีบจนเกินไป และออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย เมื่อลดอย่างเป็นเสต็ปสิ่งที่กล่าวมาข้างต้นก็จะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นคิดจะลดน้ำหนัก ควรลดอย่างถูกวิธีด้วย

แหล่งที่มา : https://www.honestdocs.co/4-bad-signs-for-wrong-weight-loss-techniques